เลขที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 47 ยูนิต4703 (ริเวอร์6) ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพ 10120
(66) 02-114-7448
(66) 02-016-2688
(66) 092-327-0777
(66) 098-246-5445
การขน ส่งต้นไม้ และการเก็บรักษาต้นไม้ เป็นการท้าทายความสามารถ ของผู้ปลูกในเชิงพาณิชย์ อย่างต่อเนื่อง ในการจัดหาบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้า อย่างต้นไม้ ที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก ได้รับความเสียหาย ที่ไม่พึงประสงค์
การดูแลต้นไม้ก่อนการขนส่ง มีบทบาทสำคัญ ในการเพิ่ม หรือลด ความสามารถของต้นไม้ ที่จะทนต่อสภาวะการขนส่ง ซึ่งเคล็ดลับต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม หากต้องการขนส่งต้นไม้ให้ปลอดภัย
การใช้ปุ๋ยในปริมาณที่สูง ก่อนการขนส่ง จะทำให้คุณภาพของต้นไม้ลดลง ทั้งในระหว่าง และ หลังการ ส่งต้นไม้
การรดน้ำต้นไม้ที่มากเกินไป ในช่วง 1 ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนการ ส่งต้นไม้ ส่งผลให้ คุณภาพต้นไม้ หรือดอกไม้ สูญเสียอย่างรวดเร็ว หลังการขนส่ง อันเนื่องมาจากความเสียหายต่อระบบราก ของต้นไม้ นั่นเอง
การจัดการอุณหภูมิ เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด ในการรักษาคุณภาพ ระหว่างการขนส่ง ให้กับต้นไม้ หรือดอกไม้ของคุณ อุณหภูมิที่ลดลง จะช่วยทำให้ ลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ’เอทิลีน’ อุณหภูมิในการขนส่งที่เหมาะสม จะแตกต่างกันไป ตามสายพันธุ์ แต่ควรจัดส่งพืชภายในอุณหภูมิต่ำสุด ที่เป็นไปได้ พืชผลที่ไวต่อการแช่เย็น โดยทั่วไปจะจัดส่งที่อุณหภูมิ 10°C ถึง 12°C ในขณะที่พืชที่ ไม่ไวต่อการแช่เย็น จะถูกจัดส่ง ที่อุณหภูมิ 2°C
หากมีระยะเวลา ในการขนส่งที่นานเกินไป จะส่งผลให้ต้นไม้ หรือ ดอกไม้ สูญเสียคุณภาพ อย่างรวดเร็วระหว่างการขนส่ง
ต้นไม้ ต้องใช้ความระมัดระวัง ทั้งก่อนการ ส่งต้นไม้ ระหว่างขนส่ง และ หลังจาก การขนส่งเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีนักวิจัยได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับ การเลี้ยงดูต้นไม้ก่อนการขนส่ง ไว้ว่า
การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ช่วยให้ต้นไม้ปรับตัวเข้ากับความมืดในรถพ่วงและตู้คอนเทนเนอร์ได้ ตลอดจนระดับแสงที่มีน้อยในอาคารและภายในบ้าน ซึ่งพืชที่ไม่ได้รับการปรับสภาพอย่างเหมาะสมจะประสบกับปัญหาการสูญเสียใบจำนวนมากหรือได้รับความเสียหายจากความเย็นได้ง่าย ดังนั้นจึงไม่แปลกตาเลยว่าทำไมพืชจำนวนมากถูกวางไว้ในโรงเรือนก่อนเป็นเวลา 1 ถึง 3 เดือนหลังจากการขนส่งทางไกล เพื่อให้มีความแข็งแรงหรือเติบโตมากขึ้นก่อนส่งไปถึงมือผู้รับ
การเลือกบรรจุภัณฑ์ขึ้นอยู่กับขนาดของต้น จำนวนของใบ ความยืดหยุ่นของกิ่งและใบ ตลอดจนแนวโน้มที่จะพันกันหรือเสียหายระหว่างการบรรทุก อัตราค่าขนส่งและความหนาแน่นในการบรรทุกที่ต้องการเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณา
ในการตัดสินใจเลือกปริมาณบรรจุภัณฑ์ ผู้ขนส่งควรคำนึงว่าต้นไม้ที่ไม่มีการป้องกันอาจได้รับอากาศเย็นและมีโอกาสเกิดความเสียหายและฟกช้ำได้ พืชที่เสียหายจะผลิตเอทิลีนมากขึ้น ส่งผลทำให้ใบเหลือง ร่วงหล่น หรือม้วนงอลงได้ อีกทั้งบรรจุภัณฑ์ต้องสามารถใช้สายรัด Composite Strap ได้ เนื่องจากการขนส่งที่มีระยะทางไกล จะต้องใช้ตัวช่วยเพื่อลดอัตราการเคลื่อนที่ในตู้ขนส่ง
หากคุณใส่ใจรายละเอียดทุกประการนี้ คุณก็สามารถรักษาคุณภาพของต้นไม้ได้ในระหว่างการขนส่ง ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดมักมีการดูแลและจัดส่งที่แตกต่างกัน แต่เบื้องต้นทั้ง 7 ประการที่ได้กล่าวไว้ เป็นพื้นฐานเรื่องการขนส่งต้นไม้หรือดอกไม้ที่มีความบอบบางให้มีความปลอดภัย ดังนั้นอุปกรณ์ป้องกันสินค้าการความเสียหายที่ใช้ในระหว่างการขนส่งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น สนใจสามารถติดต่อสอบถาม JMP Thailand บริษัทชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย ผู้ผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อการส่งออกและอุปกรณ์ป้องกันความเสียหายเนื่องจากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ขายปลีก บรรจุภัณฑ์สินค้าออนไลน์