บริษัท เจเอ็มพี พิสเทค(ไทยแลนด์) จำกัด

เลขที่ 1 อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น 47 ยูนิต4703 (ริเวอร์6) ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพ 10120

Troll Free Number

(66) 02-114-7448
(66) 02-016-2688
(66) 092-327-0777
(66) 098-246-5445

สลิปชีทรองสินค้าเหมาะกับธุรกิจอะไรบ้าง?

ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการขนส่ง การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับกระบวนการโลจิสติกส์จึงมีความสำคัญมาก หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คือ “สลิปชีทรองสินค้า” ซึ่งเป็นแผ่นรองสินค้าที่ใช้แทนพาเลทแบบดั้งเดิม ด้วยจุดเด่นด้านน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ทำให้ธุรกิจหลากหลายประเภทเริ่มหันมาใช้สลิปชีทแทนพาเลทมากขึ้น แล้วธุรกิจแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการใช้สลิปชีทรองสินค้า? เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้

สลิปชีทรองสินค้า

ธุรกิจที่ควรเลือกใช้สลิปชีทรองสินค้า

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น สลิปชีทรองสินค้าจึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับหลายธุรกิจ ไม่เพียงแต่ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจที่มีระบบคลังสินค้า การขนส่ง หรือการส่งออกสินค้าต่อเนื่อง ซึ่งต่อไปนี้จะเราพาคุณไปทำความรู้จักกับกลุ่มธุรกิจที่ควรพิจารณาเลือกใช้ สลิปชีทรองสินค้า เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน

1. ธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้า

ธุรกิจที่ต้องขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกสินค้าทางทะเลหรือทางอากาศ มักต้องคำนึงถึงน้ำหนักรวมและพื้นที่บรรทุก เพราะมีผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการขนส่ง สลิปชีทรองสินค้าช่วยลดน้ำหนักของพาเลทได้อย่างมาก เนื่องจากบางและเบากว่าเมื่อเปรียบเทียบพาเลทไม้หรือพาเลทพลาสติก ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้ในปริมาณมากขึ้นโดยไม่เพิ่มต้นทุน นอกจากนี้ สลิปชีทรองสินค้ายังไม่ต้องผ่านการรมยาหรือรับรองมาตรฐาน ISPM-15 เหมือนพาเลทไม้ จึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการส่งออก เหมาะกับ กล่องบรรจุภัณฑ์, ลังพลาสติก, ถุงเม็ดพลาสติก, สินค้าอุตสาหกรรม

1. ธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้า

2. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และคลังสินค้า (Fulfillment Center)

ธุรกิจที่มีปริมาณการเคลื่อนย้ายสินค้าในแต่ละวันจำนวนมาก เช่น อีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้าหลายร้อยออเดอร์ต่อวัน หรือคลังสินค้ากลางที่ต้องจัดการสินค้าให้หลายแบรนด์ การใช้พาเลทไม้หรือพลาสติกแบบเดิมจะเปลืองพื้นที่และยากต่อการจัดการ สลิปชีทรองสินค้าได้เข้ามาช่วยให้ระบบการขนย้ายเป็นระบบมากขึ้น รองสินค้าเป็นชุด ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุนค่าพาเลท และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เพราะสามารถวางซ้อนแผ่นสลิปชีทรองสินค้าได้จำนวนมากในพื้นที่เล็ก ๆ เหมาะกับ สินค้าเบ็ดเตล็ด, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก, เสื้อผ้า, กล่องพัสดุ

3. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มีข้อกำหนดด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด พาเลทไม้ที่มีเศษฝุ่น เศษไม้ หรืออาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย อาจไม่ปลอดภัยกับสินค้าที่ต้องรักษาความสะอาด สลิปชีทแบบพลาสติก หรือกระดาษเคลือบกันความชื้น ช่วยรองสินค้าโดยไม่ดูดซับน้ำหรือสิ่งสกปรก และยังช่วยให้จัดเรียงสินค้าได้แน่นและมั่นคงมากขึ้น เหมาะกับการวางบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม กระป๋อง อาหารแห้ง หรือขนมที่ต้องส่งเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด, นมกล่อง, ขนมขบเคี้ยว, อาหารกระป๋อง ทั้งนี้หากสงสัยสลิปชีทรองสินค้าแบบกระดาษและแบบพลาสติกแตกต่างกันอย่างไร สามารถอ่านได้ที่ เปรียบเทียบ PLASTIC SLIP SHEET และ PAPER SLIP SHEET แบบไหนดีกว่ากัน? 

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

4. ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG)

สินค้าอุปโภคที่หมุนเวียนเร็ว เช่น ยาสระผม ผงซักฟอก กระดาษชำระ หรือยาสีฟัน จำเป็นต้องขนส่งรวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และจัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้สลิปชีทรองสินค้าช่วยให้สามารถแพ็คสินค้าจำนวนมากในหน่วยบรรจุเดียวได้โดยไม่ต้องใช้พาเลทราคาแพง และยังเหมาะสำหรับการโหลดขึ้นตู้คอนเทนเนอร์หรือรถบรรทุกเพื่อขนส่งไปยังร้านค้า เหมาะกับ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, สินค้าในห้างค้าส่ง, ของใช้ในครัวเรือน

ธุรกิจผลิตกระดาษ และบรรจุภัณฑ์

5. ธุรกิจผลิตกระดาษ และบรรจุภัณฑ์

โรงงานผลิตกระดาษ กล่องลูกฟูก หรือแผ่นบรรจุภัณฑ์ มักต้องเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และต้องรักษาโครงสร้างสินค้าให้คงรูปการใช้สลิปชีทรองสินค้าแบบหนา หรือแบบลื่นพิเศษ ช่วยให้สามารถเลื่อนผลิตภัณฑ์บนสายพานหรือรถโฟล์คลิฟต์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดความเสียหายจากการลากถู และไม่เกิดฝุ่นหรือเศษไม้ร่วงเหมือนพาเลททั่วไป เหมาะกับ ม้วนกระดาษ, กล่องลูกฟูก, บรรจุภัณฑ์อาหาร

6. ธุรกิจเกษตรกรรม และสินค้าแปรรูป

สินค้าทางการเกษตร เช่น ข้าวสาร ถั่วเหลือง เมล็ดกาแฟ หรือปุ๋ยในถุงขนาดใหญ่ มักต้องจัดเก็บและขนส่งเป็นจำนวนมาก สินค้าประเภทนี้มักถูกจัดเรียงเป็นถุง ๆ ซ้อนกันบนพาเลท สลิปชีทรองสินค้าแบบกระดาษหนาหรือกระดาษเคลือบ สามารถรองถุงสินค้าได้อย่างมั่นคง สลิปชีทรองสินค้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อพาเลทไม้มีต้นทุนสูง หรือไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เหมาะกับ ข้าว, ถั่ว, เมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย, ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป

ธุรกิจเกษตรกรรม และสินค้าแปรรูป

สลิปชีทรองสินค้า เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัวในการขนส่ง และประหยัดพื้นที่จัดเก็บ โดยเฉพาะในระบบโลจิสติกส์ที่ต้องการความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ธุรกิจที่ควรพิจารณาใช้สลิปชีทรองสินค้า ได้แก่ ธุรกิจส่งออก-นำเข้า อีคอมเมิร์ซ คลังสินค้า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค โรงงานกระดาษ รวมถึงสินค้าเกษตรและแปรรูป

การเลือกใช้สลิปชีทรองสินค้า ให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าและลักษณะของธุรกิจ จะช่วยให้สามารถลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความยืดหยุ่นในการขนส่ง และตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันสินค้าเสียหายจากการขนส่งและการจัดการการส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ หรือแผ่น Slip sheet สามารถติดต่อปรึกษาขอคำแนะนำจาก JMP Holdings Pty Ltd เรามีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและออกแบบให้เหมาะสมกับชนิดสินค้าของท่าน โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศออสเตรเลีย และขยายสาขาไปทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมทั้งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ขายปลีก บรรจุภัณฑ์สินค้าออนไลน์ และการบริการ

FAQ

สลิปชีท (Slip Sheet) คือ แผ่นรองสินค้าที่ใช้ทดแทนพาเลท สำหรับการจัดวางสินค้าเพื่อขนย้ายหรือจัดเก็บ โดยผลิตจากวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษลูกฟูก กระดาษเคลือบ PE หรือพลาสติก มีน้ำหนักเบา ประหยัดพื้นที่ และต้นทุนต่ำ

ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทวัสดุ เช่น กระดาษลูกฟูก เหมาะกับการใช้ครั้งเดียว, แบบเคลือบกันชื้น ทนทานขึ้น ใช้ซ้ำได้บ้าง แบบพลาสติก (HDPE/LDPE) ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง มีอายุการใช้งานยาวนาน

มีทั้งขนาดมาตรฐาน เช่น 1100 x 1100 มม. หรือ 1200 x 1000 มม. และสามารถสั่งผลิตตามขนาดเฉพาะของสินค้าได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า

 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับต้นทุนพาเลทไม้หรือพลาสติกที่มีราคาสูงกว่า และยังช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บ ลดน้ำหนักในการขนส่ง และลดค่าแรงงานในระยะยาว

ขึ้นอยู่กับวัสดุและความหนา โดยทั่วไป กระดาษรองได้ประมาณ 500–1,000 กก.

บทความล่าสุดของเรา